The Marvels ตอกย้ำ หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง & ต้องปรับตัว

Hops News พฤศจิกายน 15, 2023

วิเคราะห์เจาะลึก ทำไม The Marvels ถึงกลายเป็นหนังทำรายได้ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของ MCU หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง และต้องปรับตัวครั้งใหญ่จริงไหม

จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) หรือ MCU ถือเป็นจักรวาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนภาพยนตร์ที่มีมากถึง 33 เรื่อง นับตั้งแต่เรื่องแรก Iron Man ออกฉายเมื่อปี 2008 เรื่อยมาจนถึงเรื่องล่าสุด The Marvels ที่ออกฉายส่งท้ายปี 2023 แต่ทั้งนี้ยังไม่นับรวมที่แตกแขนงออกไปเป็นซีรีส์อีกกว่า 20 เรื่อง

ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานร่วม 15 ปี เหล่าซูเปอร์ฮีโร่คนสำคัญซึ่งเป็นที่รักของคนดูอย่าง ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา แบล็ควิโดว์ วิชั่น ฯลฯ ต่างทยอยล้มหายตายจาก ทำให้ขาดแม่เหล็กดึงดูดแฟน ๆ ได้เหมือนเดิม

ประกอบกับความซับซ้อนของจักรวาลที่ทำให้หลัง ๆ มานี้ การดูหนังมาร์เวลซักเรื่องหนึ่งกลายเป็นความยุ่งยาก ต้องไปย้อนดูหนังเรื่องนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อเป็นการทบทวนมาก่อนถึงจะเข้าใจเรื่องที่อยากจะดูแบบลึกซึ้ง

ดังนั้น พอเข้าช่วงปลายเฟส 4 จนมาถึงต้นเฟส 5 เราจึงได้ยินเสียงวิพากษณ์วิจารณ์ค่อนข้างหนาหนูว่าหนังมาร์เวลดูไม่สนุกเหมือนเดิม ก่อนที่หวยจะมาออกเอาที่ ‘The Marvels เดอะ มาร์เวลส์’ หนังเรื่องที่ 33 ของ MCU ที่ถูกสื่อหลายสำนักสับเละว่าเป็นหนังยอดแย่ที่สุดในจักรวาล MCU ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วตัวหนังเองก็ไม่ได้ย่ำแย่ถึงขนาดนั้น

The Marvels poster

รายได้เปิดตัวต่ำสุดในประวัติศาสตร์ MCU

สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนดูเริ่มจะ “เท” หนังมาร์เวลกันแล้วก็คือรายได้ช่วงเปิดตัวของ The Marvels ที่ถึงแม้ในบ้านเราจะทำรายได้รวม 5 วันแรกเอาไว้ที่ 34.12 ล้านบาท สามารถครองอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศประเทศไทยไปได้ตามคาด

แต่ในบ้านเกิด เดอะ มาร์เวลส์ กลับกลายเป็นหนังที่ทำรายได้ช่วงเปิดตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของ MCU ด้วยรายได้เพียง 47 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่า The Incredible Hulk (ปี 2008) ที่ทำเอาไว้ 55.4 ล้านดอลลาร์ และ Ant-Man (ปี 2015) ที่ทำเอาไว้ 57.2 ล้านดอลลาร์ (ยังไม่ปรับอัตราเงินเฟ้อ)

ถ้านำไปเทียบกับภาคแรกแล้วยิ่งห่างกันลิบลับ เพราะ Captain America (ปี 2019) ทำรายได้เปิดตัวเอาไว้สูงถึง 153 ล้านดอลลาร์ แต่จะเอาไปเทียบกันแบบนั้นถือว่าไม่แฟร์ เพราะ Captain America อยู่ตรงกลางระหว่างหนังสองเรื่องที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล นั่นคือ Avengers: Infinity War (ปี 2018) และ Avengers: Endgame (ปี 2019) แล้วมีเนื้อหาเชื่อมโยงกัน ทำให้คนต้องดูทั้ง 3 เรื่องต่อกัน เลยพลอยทำให้ Captain America ทำรายได้สูงตามไปด้วย

 

ต้อง “เข้าใจทั้งจักรวาล” เพื่อดูหนังเรื่องเดียว

ปัจจัยประการหนึ่งที่ทำให้รายได้ช่วงเปิดตัวของ The Marvels ต่ำก็คือการประท้วงของสหภาพแรงงานฮอลลีวู้ดที่ยืดเยื้อ ทำให้นักแสดงและผู้กำกับไม่สามารถเดินสายโปรโมทหนังได้ตามปกติ กระแสของหนังเรื่องนี้จึงยิ่งแผ่วเข้าไปใหญ่

แต่นั่นเป็นองค์ประกอบเพียงส่วนหนึ่ง สาเหตุสำคัญคือปัจจุบันคนดูเริ่มรู้สึกไม่สนุกกับการที่เนื้อหา และตัวละครในหนังมาร์เวลมีความเชื่อมโยงกันทั้งจักรวาล ซึ่งในช่วงเฟสหนึ่งถึงเฟสสามนั้นยังถือเป็นความสนุกอยู่ เพราะตัวละครไม่มากเช่นในปัจจุบัน

พอมาถึง The Marvels ซึ่งเป็นเรื่องที่ 33 แล้ว และมีตัวละครใหม่ ๆ ที่คนไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้จริง ๆ จะรู้จักโผล่เข้ามาเยอะมาก จึงพลอยทำให้เกิดความรู้สึกว่า “มันเป็นภาระหน้าที่ของคนดูด้วยหรือที่จะต้องเข้าใจทั้งจักรวาลมาร์เวลเพื่อที่จะดูหนังซักเรื่องให้สนุกและอินไปกับมัน” ได้อย่างแท้จริง

 

The Marvels ตอกย้ำ หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง & ต้องปรับตัว

จุดเปลี่ยนของหนังมาร์เวลอีกอย่างหนึ่งก็คือช่วงหลัง ๆ มาจะมีการสร้างเรื่องแยกของตัวละครต่าง ๆ เป็นซีรีส์แล้วนำออกฉายทางดิสนีย์พลัส พอตัวละครเหล่านั้นมาปรากฏตัวในหนังใหญ่ นอกจากคนที่ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อนจะตามไม่ทัน ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องบางส่วนแล้ว ยังทำให้ความรัก ความผูกพันธ์ที่มีให้กับตัวละครไม่แน่นแฟ้นเหมือนกับในเฟสแรก ๆ ที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเฉพาะในหนังใหญ่เท่านั้น

 

The Marvels ตอกย้ำ หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง & ต้องปรับตัว

 

The Marvels เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในจุดนี้ เพราะตัวละครหลักอีกสองตัวนั้นมาจากซีรีส์ที่ฉายทางดิสนีย์พลัส โดยเฉพาะสาวน้อย กมลา ข่าน ที่ถ้าใครไม่เคยดูซีรีส์เรื่อง Ms. Marvel มาก่อนเลยจะไม่เข้าใจว่าเธอ และครอบครัวที่มีบทบาทในเรื่องนั้นเป็นใคร มีพลังอะไร แล้วกำไลที่เธอสวมอยู่มีความสำคัญอย่างไร

 

The Marvels ตอกย้ำ หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง & ต้องปรับตัว

 

ส่วนตัวเอกอีกคน โมนิก้า แรมโบ นั้น แม้จะเคยปรากฎตัวในหนังเรื่อง Captain Marvel มาแล้ว แต่ตอนนั้นเธอยังเป็นเพียงเด็กน้อยผู้เป็นลูกสาวของกัปตันมาเรีย แรมโบ นักบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ผู้เป็นเพื่อนเก่าของแครอล เดนเวอร์ส

แต่ โมนิกา แรมโบ้ ที่เราเห็นในหนัง The Marvels นั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แถมยังมีสิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างคือ แทนที่จะรักและสนิทสนมกับ ‘กัปตันมาร์เวล’ ที่เธอเรียกว่า ‘น้า’ แต่ทั้งคู่กลับดูห่างเหินและเข้าหน้ากันไม่ติด

ซึ่งประเด็นนี้ต้องเป็นคนที่ดูซีรีส์ WandaVision มาแล้วเท่านั้นถึงจะเข้าใจว่าโมนิกาในวัยผู้ใหญ่ไม่ได้สนิทใจกับกัปตันมาร์เวลเหมือนตอนเป็นเด็กแล้ว แถมเธอยังมีพลังพิเศษบางอย่างที่ทำให้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ สามารถร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกัปตันมาร์เวลได้แล้ว

 

The Marvels ตอกย้ำ หนังมาร์เวลกำลังหลงทาง & ต้องปรับตัว

ความ woke เกินเหตุทำให้หนังดูสนุกน้อยลง

กัปตันมาร์เวลเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่งในจักรวาล แล้วในหนัง MCU เฟส 5 ที่ขาดแคลนฮีโร่ตัวเด่น ๆ มาดึงดูดใจแฟน ๆ กัปตันมาร์เวลถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก หากทางค่ายปลุกปั้นให้หนังเดี่ยวของกัปตันมาร์เวลเป็นเรื่องราวของเธอจริง ๆ แบบที่เราเห็นจาก Iron Man ภาค 1-3 หรือ Captain America ภาค 1-3 ที่นำเสนอเรื่องราวแบบลงลึก ทั้งปูมหลัง ที่มาของพลัง ภาระหน้าที่ในการปกป้องโลก ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ทำให้คนดูรักและผูกพันธ์กับไอรอนแมน และกัปตันอเมริกาเป็นอย่างมาก

แต่ The Marvels กลับไปเน้นการชูประเด็นสิทธิสตรีด้วยการจับเอาซูเปอร์ฮีโร่หญิง 3 คนมารวมพลังกันต่อสู้กับตัวร้าย ซึ่งก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน ทำให้คนที่เป็นแฟนของกัปตันมาร์เวลค่อนข้างผิดหวังที่ไม่ได้ดูเรื่องราวของเธอแบบเต็ม ๆ และรู้สึกว่าเธอถูกใช้เป็นเครื่องมือผลักดันตัวละครใหม่ 2 คนที่ต่อไปจะมีบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่รุ่นต่อไปของมาร์เวลต่างหาก